

ถ้าให้พูดถึงปราสาทในยุโรป ที่สวยสดงดงาม และเชื่อว่าไม่ว่าใครก็ตามก็ต้องเคยฝันว่าอยากเป็นเจ้าหญิงและเจ้าชายกันทั้งนั้น อัลติเมทเลยอยากขอมาแนะนำและเชิญชวนทุกท่านได้มาอ่านบทความสนุกๆเกี่ยวกับปราสาทแสนสวยของยุโรปกันว่าแต่ละที่เป็นมายังไง ขอให้สนุกกับการอ่านบทความนะคะ https://ultimatejourney.co.th/
- ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle)
- ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น (Hohenzollern Castle)
- ปราสาทลิกเตนสไตน์ (Lichtenstein Castle)
- ปราสาทโบเดียม (Bodiam Castle)
- ปราสาทปราก (Prague Castle)
- ปราสาทคิลเคนนี (Kilkenny Castle)
- ปราสาทมงต์แซงต์ มิเชล (Mont Saint Michel Castle)
- ปราสาทเอเกสโคฟ (Egeskov castle)
- ปราสาทอัลคาซาร์ (Alcazar Castle)
- ปราสาทเอดินบะระ (Edinburgh Castle)
1.ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle)

มาเริ่มต้นกันที่ทัวร์ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) ต้นแบบปราสาทเทพนิยายของดิสนีย์ที่คนส่วนใหญ่ชื่นชอบ ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ แคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี สร้างขึ้นเพราะเป็นความต้องการของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ซึ่งเป็นที่รู้จักอีกชื่อ กษัตริย์แห่งเทพนิยาย ในศตวรรษที่ 19 พระเจ้าลุดวิก 2 มีความต้องการสร้าง
ปราสานี้ตามที่ ริชาร์ด ว้ากเนอร์ นักประพันธ์ชื่อดังแห่งยุคและเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าลุดวิก ได้บรรยายในนิยาย “อัศวินหงส์” จึงกลายมาเป็นอีกชื่อเรียกนั่นก็คือ “ปราสาทหงส์” นั่นเอง รูปทรงทั้งภายนอกและภายในของปราสาทนอยชวานชไตน์ถูกตกแต่งอย่างงดงามและโออ่ามากๆ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเยอรมนี หากใครที่ชื่นชอบในการตกแต่งของสถานที่นี้แนะนำให้มาที่ได้เลยรับลองไม่ผิดหวัง
2.ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น (Hohenzollern Castle) ประเทศเยอรมนี

มาต่อกันที่ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น (Hohenzollern Castle) เป็นอีกหนึ่งในปราสาทแห่งเทพนิยายที่มีความคลาสสิกและสวยที่สุดในโลก ถ้าจำไม่ผิดปราสาทได้เริ่มสร้างเพื่อเป็นป้อมปราการในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 11 ในปัจจุบันปราสาทโฮเอินโซลเลิร์นได้กลายเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในเยอรมนี ในแต่ละปีมีผู้เข้าชมมากกว่า
350,000 แสนคน รวมถึงมีการปรับใช้ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น โดยเป็นทั้งโรงละครแบบเปิด สถานที่จัดคอนเสิร์ต และตลาดคริสต์มาส ถือเป็นปราสาทที่ค่อนข้างฮอตฮิตสุดๆในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
3.ปราสาทลิกเตนสไตน์ (Lichtenstein Castle) ประเทศเยอรมนี

มาถึงที่ปราสาทลิกเตนสไตน์ (Lichtenstein Castle) ตั้งอยู่บนบริเวณหน้าผาของเทือกเขา Swabian Alps ถ้าจำไม่ผิดที่นี่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 เพื่อเป็นป้อมปราการของอัศวินแห่งลิกเตนสไตน์ ที่นี่มีการเสื่อมสลายตามกาลเวลาและได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมสร้างใหม่อยู่หลายครั้ง และในล่าสุดเป็นผลงานของยุควิลเฮล์ม แห่งเวิร์ทเทมเบิร์ก
ได้มีแรงบรรดาลใจมาจากนวนิยายชื่อดังเรื่อง Lichtenstein ลักษณะจึงคล้ายกับปราสาทของอัศวินในยุคกลาง ปัจจุบันปราสาทลิกเตนสไตน์นี้ได้เปิดให้คนเข้าชมด้านในได้ พูดได้เลยว่าปรานี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องมาเยี่ยมชม
4.ปราสาทโบเดียม (Bodiam Castle) ประเทศอังกฤษ

มาถึงถึงอีกสถานที่นั่นก็คือ ปราสาทโบเดียม (Bodiam Castle) ตั้งอยู่ที่โรเบิร์ตสบริดจ์แห่งสหราชอาณาจักร เป็นปราสาทที่มีคูน้ำล้อมรอบของสมัยปลายยุคกลางก่อสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1385 โดยเซอร์เอ็ดเวิร์ด ดาลิงริกก์ อดีตอัศวินในสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ กล่าวกันว่าสร้างตามความต้องการของสมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 ที่ขอสร้าง
เพื่อเป็นการป้องกันจากการรุกรานของฝรั่งเศส ภายในปี ค.ศ. 1434 หลานของดาลิงริกก์ก็มาพักอยู่ที่ปราสาท จากเรียนรู้ได้ไม่นาน การสร้างปราสาทเป็นการสร้างเพื่อเป็นการแสดงความมีหน้ามีตา มากกว่าที่จะเป็นสิ่งก่อสร้างสำหรับการป้องกันการรุกรานจากศัตรูอย่างมีประสิทธิภาพ บอกได้เลยว่าถ้าได้มาเที่ยวชมที่นี่คงรู้สึกดีไม่ใช่น้อย
5.ปราสาทปราก (Prague Castle) สาธารณรัฐเช็ก

มาอยู่กันที่ ปราสาทปราก (Prague Castle) จะตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางกรุงปรากที่มีชื่อเรียกว่า Castle Hill ในเขต คาสเซิล อยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำวิตาร่า ที่นี่จะมีประวัติศาสตร์นานนับ 1,000 ปีได้ และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ ยูเนสโก้ ว่าด้วยเรื่องสถาปัตยกรรมและศิลปะในอดีต อีกทั้งยังเคยเป็นปราสาทของกษัตริย์แห่งเช็ก
นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและเป็นเเลนด์มาร์คของเช็ก เพราะมีความยิ่งใหญ่เก่าเเก่เเละสวยงามจึงทำให้ผู้คนส่วนใหญ่สนนใจที่นี่ และที่นี่ยังได้รับการรับรองจากกินเนสส์ บุ๊กว่าเป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากให้มาเที่ยวชม ถ้าใครได้มาเยี่ยมชมปราสาทนี้ก็คงไม่ผิดหวังหรอกเพราะที่นี่เต็มไปด้วยความสวยงามตระการตา
6.ปราสาทคิลเคนนี (Kilkenny Castle) ประเทศไอร์แลนด์

มาต่อกันที่ ปราสาทคิลเคนนี (Kilkenny Castle) ปราสาทเก่าแก่ในคิลเคนนี หรือประเทศไอร์แลนด์ ถูกสั่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1195 โดยวิลเลียม มาร์แชล (William Marshal) เป็นสถานที่ที่มีขนาดใหญ่มาก เป็นปราสาทที่มีเรื่องราวมากมายเนื่องจากมีอายุกว่า 800 ปี ซึ่งล่าสุดในปี ค.ศ. 2017 ได้ใช้เป็นสถานที่ต้อนรับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์แห่งเวลส์และคามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลเสด็จมาเยือน
ถ้าใครได้มาเยือนที่ปราสาทนี้จะได้สัมผัสบรรยากาศการตกแต่งสไตล์วิคตอเรียน บอกได้เลยว่าสวยงามสุดๆ ห้องรับประทานอาหาร ห้องที่ถูกตกแต่งโดยการวาดสไตล์จีน บันไดไม้มะฮอกกานี หอคอย เฟอร์นิเจอร์สมัยก่อนอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงผลงานศิลปะที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตลอดทั้งปีและสวนสวยๆให้ผู้คนได้เข้าชมกันอีกด้วย บอกเลยว่าถ้าใครได้เข้าชมที่คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มเสียอีกก
7.ปราสาทมงต์แซงต์ มิเชล (Mont Saint Michel Castle) ประเทศฝรั่งเศส

มาต่อกันที่ประเทศฝรั่งเศส นั่นก็คือ ปราสาทมงต์แซงต์ มิเชล (Mont Saint Michel Castle) ที่มีชื่อเสียงดังในนามว่า “มหาวิหารกลางน้ำ” จะตั้งอยู่บนเกาะหิน ใกล้ชายฝั่งเมืองม็องช์ แคว้นนอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส ด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมกับสภาพแวดล้อมแล้ว ที่นี่ก็จะมีความสวยงามเหมือนปราสาทในฝันเลยมีเดียว ด้วยความที่มี
การออกแบบผสมผสานระหว่างกอทิกและโรมาเนสก์ผนวกรวมไปกับความเก่าแก่มากเต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ จึงทำให้ที่นี่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโลกทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมโดยองค์การยูเนสโก และวิหารนี้มีอะไรที่พิเศษอีกตั้งมากมาย และยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่นี่ยังเป็นสถนานที่ท่องเที่ยวที่ติด 1 ใน 3 ของประเทศฝรั่งเศษอีกด้วยนะคะ
8.ปราสาทเอเกสโคฟ (Egeskov castle) ประเทศเดนมาร์ก

มาต่อกันที่ประเทศเดนมาร์ก ที่ปราสาทเอเกสโคฟ (Egeskov castle) หนึ่งในปราสาทริมน้ำสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) ของยุโรปที่ยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ได้อย่างดีที่สุด ซึ่งตั้งอยู่ในช่วงตอนใต้ของเกาะฟึน (Funen) ที่ประเทศเดนมาร์ก ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 โดย Frands Brockenhuus ในตัวปราสาทถูกออกแบบเป็นลักษณะ
คล้ายป้อมปราการเพื่อรับมือกับสงครามที่เกิดขึ้นในเวลานั้น โดยในบริเวณรอบๆ ของปราสาทมีสวนสวยสไตล์อังกฤษ ทำให้บรรยากาศที่สวยงามและมีกลิ่นอายความสดชื่นของธรรมชาติ ปัจจุบันปราสาทนี้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับยานยนต์ ยานพาหนะ สถานที่นี้อนุญาตให้คนปกติทั่วไปได้ชมได้ และเป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์กของประเทศเดนมาร์กก็ว่าได้
9.ปราสาทอัลคาซาร์ (Alcazar Castle) ประเทศสเปน

มาต่อกันที่ประเทศสเปน ที่ปราสาทอัลคาซาร์ (Alcazar Castle) จะตั้งอยู่ที่เขตเมืองเก่าของเซอโกเบีย ตอนแรกเป็นป้อม แต่ต่อมากษัตริย์คริสเตียนสเปนปรับปรุงป้อมโบราณให้เป็นที่ปราสาทของกษัตริย์ นับได้ว่าเป็นมรดกทาง
วัฒนธรรมอันยาวนาน ปราสาทถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของชาวสเปน ในปัจจุบันอัลคาซาร์ได้รับการบูรณะให้เป็นพิพิธภัณฑ์และห้องสมุดไปแล้ว และปราสาทซินเดอเรลลาของการ์ตูนวอลต์ดิสนีย์ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากปราสาทอัลคาซาร์แห่งนี้
10.ปราสาทเอดินบะระ (Edinburgh Castle) ประเทศสกอตแลนด์

มาที่สถานที่สุดท้ายและประเทศสุดท้ายกันเถอะ นั่นก็คือปราสาทเอดินบะระ (Edinburgh Castle) เป็นปราสาทยุคกลางสุดขลังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองเอดินบะระ ของประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งในอดีตตที่นี่เคยเป็นภูเขาไฟ และที่นี่ยังเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์สกอตแลนด์มาก่อนด้วย และในปัจจุบันเป็นสถานที่เก็บรักษามงกุฎแห่งราชวงศ์ ดาบ เครื่องราช และอัญมณีล้ำค่าของสกอตแลนด์
และภายในหรือด้านบทของปราสาทยังถือว่าเป็นจุดชมวิวของเมืองเอดินบะระที่ดีและสวยงามมากๆ เนื่องจากเป็นเนินเขาสูง มองเห็นวิวได้รอบทิศไปทั่วเลย ถือว่าที่นี่ก็ค่อนข้างตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบปราสาทสวยๆอยู่นะคะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 10 ปราสาทที่สวยราวกับอยู่ในเทพนิยาย ได้อ่านแล้วรู้สึกถึงความสวยงามของแต่ละสถานที่มั้ยเอ่ย ไม่ว่าจะปราสาทไหนในยุโรป บอกได้คำเดียวว่าอเมสซิ่งสุดๆ หรับสำหรับที่ชื่นชอบการเที่ยวชมปราสาท
แนะนำได้เลย 10 ทัวร์ปราสาทที่สวยจนคนหลงใหล ไม่ได้เที่ยวก็คงพลาด สำหรับวันนี้ ทางอัลติเมท ขออนุญาตให้ข้อมูลเพียงเท่านี้ก่อน วันหน้าค่อยพบกันใหม่ค่ะ อัลติเมทขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความของเรา ขอขอบคุณค่ะสามารถอ่านบทความเพื่มเติมได้ที่ https://ultimatejourney.co.th/blog/
อย่าลืมกดติดตามเพื่อไม่ให้พลาดกับบทความครั้งหน้า วันนี้ Ultimate Journey ไปแล้วค่า
กด Like และ กดติดตามเราได้ที่
Facebook https://www.facebook.com/ultimatejourney8/
Ultimate Journey มีโปรแกรม
ทัวร์ออสเตรีย
หลากหลายเส้นทาง
โทร : 02-334-0081
Line Official : @ultimate.bkk (มี@ด้านหน้า)