ติดต่อสอบถาม

เปิดให้บริการ จันทร์ - ศุกร์ 09.30 - 18.30 น.

เสาร์ 09.30 - 15.30 น.

10 อันดับ เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก 2024

Zurich

เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 2024 รายการประจำปีจาก Economist Intelligence Unit (EIU) ได้รายงานผลการจัดอันดับ “เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก” ได้แก่ เวียนนา โคเปนเฮเกน เมลเบิร์น ซิดนีย์ แวนคูเวอร์ ซูริค เจนีวา โทรอนโต คัลการี โอซาก้า โอ๊คแลนด์ จากจำนวนเมือง173 แห่งทั่วโลก ใช้ 30 ตัวชี้วัดใน 5 หมวดด้วยกัน ได้แก่ ความมั่นคงและปลอดภัยในชีวิต ระบบสาธารณสุข วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน

  • Vienna, Austria (เวียนนา ประเทศออสเตรีย)
  • Copenhagen, Denmark (โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก)
  • Melbourne, Australia (เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย)
  • Sydney, Australia (ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย)
  • Vancouver, Canada ( แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา)
  • Zurich, Switzerland (ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์)
  • Calgary, Canada (คัลการี ประเทศแคนาดา)
  • Geneva, Switzerland (เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์)
  • Toronto, Canada (โทรอนโต ประเทศแคนาดา)
  • Osaka, Japan(โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น) และ Auckland New Zealand (โอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์)

1.Vienna, Austria ( เวียนนา ประเทศออสเตรีย)

Vienna

เวียนนา เป็นเมืองหลวง ใหญ่ที่สุด และเป็นหนึ่งในเก้ารัฐของประเทศออสเตรีย เวียนนาเป็นนครที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ โดยมีผู้อาศัยทั้งสิ้น 1.9 ล้านคน (2.6 ล้านคนถ้านับรวมปริมณฑล คิดเป็นหนึ่งในสามของประชากรทั้งประเทศ) และยังเป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมือง เวียนนาเป็นเมืองที่มีประชากรในเขตเมืองมากที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ของสหภาพยุโรป https://ultimatejourney.co.th/tour_category/toureurope/

ท่ามกลางธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ผู้คนมีคุณภาพ ทำให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจและจัดอันดับโดยนิตยสาร “Economist” ยกให้กรุงเวียนนาเป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ซึ่งการจัดอันดับไม่ได้วัดเพียงความสวยงามเท่านั้นแต่ยังรวมถึง สภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมือง การศึกษา และปัจจัยอื่น ๆ อีกด้วย 

Schoenbrunn Palace

กรุงเวียนนามีที่เที่ยวที่น่าสนใจหลากหลายที่ เช่น พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace), พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace), ถนนช้อปปิ้ง กราเบน (Graben) และ โคห์ลมาร์ท (Kohlmarkt), สวนสาธารณะสตัดต์ปาร์ค (Stadtpark) เป็นต้น 

2.Copenhagen, Denmark (โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก)

Copenhagen

โคเปนเฮเกน เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเดนมาร์ก และเป็นประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีประชากรที่มีความสุขที่สุดในโลก จำนวนประชากรในมีเมืองมีทั้งหมดประมาณ 500,000 คนและ เขตนครหลวงหรือเมโทรทั้งหมดประมาณ 1,200,000 คน กรุงโคเปนเฮเกนเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการบริหารประเทศ รัฐสภา รัฐบาลและเป็นที่ตั้งพระราชวังหลวง เป็นที่ประทับของสมาชิกพระราชวงศ์ของเดนมาร์ก

โคเปนเฮเกนถือว่าเป็นเมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งของยุโรป ก่อตั้งมาราว ๆ คริสต์ศตวรรษที่ 10 และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย ผู้คนต่างเรียกขานเมืองนี้ว่าเป็นเมืองในเทพนิยาย เพราะมีสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่จัดว่าเพอร์เฟคเลยก็ว่าได้ค่ะ ทั้งยังห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม มีลักษณะของการผสมผสานวิถีชีตที่หลากหลาย

The Little Mermaid

ถือว่าเป็นเมืองที่น่าสนใจมาก ถ้าได้มาสัมผัสบรรยากาศจะต้องรู้สึกผ่อนคลายดั่งต้องมนต์อย่างลืมไม่ลงแน่นอนค่า ที่โคเปนเฮเกนยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลากหลาย เช่น พระราชวังโรเซนเบิร์ก (Rosenborg Palace), รูปปั้นนางเงือกน้อย (The Little Mermaid), จัตุรัสพระราชวังอามาเลียนบอร์ก (Amalienborg Palace) เป็นต้น

3.Melbourne, Australia (เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย)

Melbourne

เมลเบิร์น เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศออสเตรเลีย รองจากนครซิดนีย์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เมลเบิร์นเป็นเมืองหลวงของรัฐวิกตอเรียที่ถูกจัดอันดับว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดอันดับ 1 ของโลกติดต่อกันหลายปีซ้อน ด้วยความหลายหลายทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โด่งดังทั้งเรื่องของ ดนตรี ศิลปะ และวิถีชีวิต และเมลเบิร์นถูกจัดให้เป็นเมืองน่าอยู่มาหลายปี

ที่เมลเบิร์นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ฮิตๆ อีกมากมาย เช่น แม่น้ำยาร์รา (YARRA RIVER) เป็นแม่น้ำสายหลักที่ไหลจากเทือกเขายาร์ราผ่านใจกลางเมลเบิร์น ซึ่งแม่น้ำสายนี้เปรียบเสมือนหัวใจหลักของเมืองเมลเบิร์น กิจกรรมสุดฮิตคืของนักท่องเที่ยวคือการพายเรือคายัคไปตามแม่น้ำ นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารให้เลือกหลากหลายตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำ และ

FLINDERS STREET RAILWAY STATION

ผลงานศิลปะฝีมือของคนในท้องถิ่นที่สามารถให้ทุกท่านได้เลือกซื้อตามใจชอบ สถานีรถไฟฟลินเดอร์สตรีท (FLINDERS STREET RAILWAY STATION) สถานีรถไฟเก่าแก่ ศูนย์กลางการคมนาคมหลักของเมืองเมลเบิร์นที่มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น โดยหนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษเคยยกย่องให้เป็นสถานีรถไฟที่มีความสวยงามเป็นอันดับหนึ่งของโลก

4.Sydney, Australia (ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย)

Sydney

แม้ว่าซิดนีย์จะไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศออสเตรเลีย แต่ซิดนีย์เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งรู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดและเป็นเมืองที่มีความน่าตื่นเต้นที่สุดในโลก นอกจากนั้นยังเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอันดับที่ 4 อีกด้วยค่ะ  ซิดนีย์เป็นเมืองที่ง่าย ๆ สบาย ๆ และมีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งด้านการศึกษา วัฒนธรรม เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ และเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางด้านของเชื้อชาติ และยังเป็นเมืองแห่งการศึกษา

โดยมีมหาวิทยาลัยถึง 5 แห่งที่เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก เรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวในซิดนีย์ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ เพราะที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย เช่น Sydney Opera House ซึ่งที่แห่งนี้ Unesco ก็ได้จัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความโด่งดังที่สุดในโลก

Sydney Opera House

ภายในก็จะมีการจัดแสดงร้องโอเปร่า การแสดงดนตรีแนวป๊อบ งานแสดงเต้นบัลเลต์ ละครตลกคอมเมดี้ถึง 1,600 การแสดงต่อปี   Sydney Harbour Bridge เป็นสะพานเหล็กที่ใหญ่ที่สุดในโลก กิจกรรมที่ท้าทายคือการปีนสะพานนี้ด้วยความสูงถึง 1,150 เมตร แต่สำหรับใครที่กลัวความสูง ก็สามารถเดินข้ามสะพานเดินชมความสวยงามได้ค่ะ

5.Vancouver, Canada ( แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา)

Vancouver

แวนคูเวอร์ เมืองที่ได้รับการโหวตว่าน่าอยู่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ Vancouver ตั้งอยู่ในรัฐ British Columbia ทางตะวันตกของแคนาดา มีประชากรประมาณ 2.6 ล้านคน ซึ่งเป็นเมืองยอดฮิตที่ใครๆก็ต้องรู้จัก Vancouver มีประชากรส่วนใหญ่เป็นคนเอเชียมากกว่า 35% ของประชากรทั้งหมด ค่อนข้างมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย

Capilano

นักเรียนและนักท่องเที่ยวนิยมมาแวนคูเวอร์มากที่สุด นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกมากมาย เช่น  สะพานแขวนคาปิลาโน สถานที่ท่องเที่ยวนิยมของแคนาดา เป็นสะพานที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของหุบเขาลึกจากข้างบนได้อย่างชัดเจน  สวนสาธารณะสแตนลีย์ เป็นสวนสาธารณะที่มีพื้นที่กว่า 1,000 เอเคอร์ และได้รับการยอมรับให้เป็นสวนสาธารณะที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย

Stanley Park

เนื่องจากมีธรรมชาติที่สวยงามหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าเขา ชายหาด จุดชมวิว หรือเส้นทางปั่นจักรยาน เส้นทางเดินป่า ร้านอาหารต่างๆรวมไปถึงวิวเมืองแวนคูเวอร์ที่สวยงามไม่แพ้เมืองใด อ่าวอังกฤษ เป็นชายหาดที่สวยงามและคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาทำกิจกรรมที่นี่ เช่น อาบน้ำ ว่ายน้ำ ชมพระอาทิตย์ตก เป็นต้น English Bay เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวมาเยือนตลอดปีโดยเฉพาะช่วงปลายฤดูร้อนจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด

6.Zurich, Switzerland (ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์)

Zurich

ซูริค เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศและของทวีปยุโรป และซูริคยังเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องมนต์สเน่ห์ของงานสถาปัตยกรรมแบบเก่ารายล้อมเมืองแน่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นเมืองที่มีความเจริญทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ และยังเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอันดับที่6 อีกด้วย

เป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวตประชากรดีที่สุดของโลและเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในสหภาพยุโรป สถานที่ท่องเที่ยวในซูริคก็มีมากมายค่ะ อย่างเช่น ถนนบานโฮฟซตราส เป็นถนนที่รู้จักกันคือ ถนนช้อปปิ้งที่แพงที่สุดในโลก เป็นย่านการค้าขายที่แพงที่สุดในทวีปยุโรป และยังเป็นถนนกาค้าเก่าแก่ของเมืองซูริคมาตั้งศตวรรษที่ 14 สองข้างทางจะมีร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลกมากมาย

Lake Zurich

ทะลสาบซูริค ทะเลสาบสีฟ้าแสนสวยที่เป็น 1 ใน 5 ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และเป็น 1 ในที่เที่ยวซูริคที่เป็นไฮไลท์อีกด้วย กิจกรรมยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยว คือ ล่องเรือชมความสวยงามรอบทะเลสาบซูริค ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง แต่รับรองว่าถ้าได้ไปเยือนเมืองซูริคแล้วคุณจะตกหลุมรักเมืองนี้อย่างแน่นอน

7.Calgary, Canada (คัลการี ประเทศแคนาดา)

คัลการี หนึ่งในเมืองที่ร่ำรวยที่สุดของแคนาดา ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาเทือกเขาร็อกกี้ของแคนาดาเป็นเมืองที่มีแสงแดดตลอดทั้งปี มีภูมิทัศน์ของภูเขาที่น่าตื่นตาตื่นใจ น้ำแข็งทะสาบที่น่ามหัศจรรย์ และประตูสู่แคนาดาร็อกกี้ หรือเทือกเขาร็อกกี้ เป็นเทือกเขาที่มีชื่อเสียงระดับโลก นอกจากนั้นคัลการียังเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอันดับที่ 7 อีกด้วย

Banff National Park

ที่คัลการีมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์ Glenbow เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เน้นประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของแคนาดาตะวันตก และประวัติศาสตร์คนนอกกฏหมายจากอเมริกาเหนือ อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ เป็นอุทยานที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด มีสัตว์ป่า ทะเลสาบน้ำแข็งมากมาย มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของแคนาดา และที่นี่ไม่ได้มีแค่สถานที่ที่พี่อัลติเมทกล่าวถึงนะคะ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกมากมายที่รอให้ทุกคนไปสัมผัสค่ะ

Geneva

เจนีวา เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 8 ของโลก เป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวเป็นที่รู้ของคนทั่วโลกมากมาย เป็นเมืองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนทุกปีอีกด้วย เนื่องจากเจนีวาเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติและทัศนียภาพอันน่าทึ่ง ประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนาน และความหลากหลายทางวัฒนธรรม

อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านอุตสาหกรรมนาฬิกา เครื่องประดับอันหรูหรา และอาหารรสเลิศ สถานที่เที่ยวที่ต้องไปเมื่อไปเยือนเจนีวาก็คือ Cathedral Saint Pierre Geneva หรือ วิหารเจนีวา เป็นโบถส์เก่าแก่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเจนีวา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม มีสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง กระจกหน้าต่างสีที่วิจิตรงดงามรวมถึงงานแกะสลักที่ประณีต 

Jet d'Eau de Genève

น้ำพุเจ็ทโด้ (Jet d’Eau de Genève)เป็นน้ำพุที่มีชื่อเสียงและเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญเป็นที่รู้จักมากที่สุดของเจนีวา ลักษณะเด่นของเจนีวาคือ น้ำที่พุ่งขึ้นไปในอากาศสูงถึง 140 เมตร จึงทำให้เป็นหนึ่งในน้ำพุที่สูงที่สุดในโลก รับรองว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครก็ตามที่มาเยือนเจนีวาต้องไม่พลาดที่จะมาชม และมันจะทำให้คุณประทับใจอย่างไม่รู้ลืมแน่นอน

Toronto

โทรอนโต เมืองน่าอยู่อันดับที่ 9 ของโลก เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของแคนาดา เป็นศูนย์กลางการค้า การเงิน ศิลปะ และวัฒนธรรมระดับนานาชาติ และเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเป็นสากลมากที่สุดในโลก โตรอนโตเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในด้านดนตรี โรงละคร การผลิตภาพยนตร์ และการผลิตรายการโทรทัศน์ ที่โทรอนโตเป็นเมืองที่มีความเจริญ มีตึกสูงระฟ้ามากมาย

นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น CN Tower แลนด์มาร์คที่มีชื่อเสียงมากในโทรอนโต เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในเมือง โดยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมากกว่าสองล้านคนต่อปี Casa Loma หรือคฤหาสน์และสวนสไตล์โกธิครีวิฟเวน เป็นพิพิธภัณฑ์บ้านประวัติศาสตร์และสถานที่สำคัญ

Casa Loma

นอกจากนั้นปราสาทแห่งนี้ยังได้ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่องอีกด้วย เช่น X-Men, The Tuxedo เป็นต้น มันจึงทำให้ปราสาทแห่งนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวให้ได้มาเยือนสถาปัตยกรรมอันงดงามและเก่าแก่เป็นอย่างมาก

10.Osaka, Japan(โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น)
Osaka

โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองศูนย์กลางของเศรษฐกิจและวัฒนธรรมมาตั้งแต่สมัยก่อนจนมาถึงปัจจุบัน และยังเป็นเมืองที่มีสถานที่ทางประวัติศาตร์หลงเหลืออยู่ เช่น สุสานโบราณ อาคารสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ในอดีต โอซาก้าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสดใสร่าเริง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้เราหลงรักโอซาก้าจนอยากจะมาเที่ยวบ่อยๆ เช่น ย่านโดทงโบริ เป็นย่านที่คึกคักมากๆ มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเยี่ยมชมกันหนาแน่นตลอดทั้งวั

มีร้านอาหาร ร้านค้า เยอะแยะมากมาย ซึ่งแลนด์มาร์กที่ส่วนใหญ่มักไปถ่ายรูปนั้นก็คือ ป้ายไฟกูลิโกะ นั้นเอง Universal Studio Japan สวนสนุกแห่งแรกในเอเชียเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2001 ภายในมีเครื่องเล่นมากมาย มีขบวนพาเหรด หรือการจัดอีเว้นท์เล่นเกมส์แจกของรางวัล แจกขนมให้กับเด็ก ๆ รวมไปถึงผู้ใหญ่ได้ร่วมสนุกกัน

Universal Studio Japan

โดยสวนสนุกจะแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ เช่น New York เป็นการจำลองฉากภาพยนตร์ชื่อดังหลายๆ  เรื่อง เช่น Spider Man ซึ่งก็จะมีโรงภาพยนตร์ 3 มิติที่จะทำให้เพื่อนๆ ได้ฟินกับความเก่ง ความหล่อ เท่ ของสไปเดอร์แมน โซน Minion Park เป็นโซนที่เรียกเสียงกรี๊ดทั้งเด็กและผู้ใหญ่อย่างมากเพราะด้วยความน่ารักของเจ้ามินเนี่ยนสีเหลืองตัวป่วน ซึ่งถือว่าเป็นการจำลองฉากเหมือนกับในการ์ตูนเลยทีเดียว

Minion Park

และโซน The wizarding World Harry Potter เป็นโซนยอดนิยมของนักท่องเที่ยว รับรองว่าเหล่าแฟนคลับสาวกพ่อมดแม่มดแฮรี่ พอตเตอร์ ต้องร้องว้าวววววไปตลอดทางแน่นอนค่ะ เพราะเขาได้มีการจำลองได้เหมือนจริงมาก ๆ บอกเลยนะคะว่าถ้าเดินหลงเข้าไปเนี่ย ไม่มีทางหลุดออกมาง่ายๆ แน่นอนค่ะ

Auckland New Zealand (โอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์)

Auckland Sky Tower

โอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์  เป็นเมืองที่มีอากาศดีและมีภูมิประเทศที่สวยงามธรรมชาติสวยบริสุทธิ์ มีภูเขาไฟที่ดับไปแล้วถึง 49 แห่ง ประชากรมีคุณภาพชีวิตดี และถือว่าเป็นอ่าวจอดเรือที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้อีกด้วยเป็นอ่าวที่มีเรือยอร์ชจอดอยู่ถึง 1,400 ลำ นอกจากนั้นโอ๊คแลนด์ยังเป็นเมืองในฝันของใครหลายๆคน
เนื่องจากมีอากาศดีและมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น โอ๊คแลนด์สกายทาวเวอร์ (Auckland Sky Tower)

เป็นสกายทาวเวอร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางโอ๊คแลนด์ และเป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของโอ๊คแลนด์เลยก็ว่าได้ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองได้ไกลถึง 80 กิโลเมตร นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมที่โลดโผนคือ สกายจัมพ์ (Sky Jump) วิธีการเล่นคือ ให้กระโดดจากตึกสูง 192 เมตร หอศิลป์โอ๊คแลนด์ (Auckland Art Gallery) เป็นหอศิลป์ที่จัดแสดงวัฒนธรรมของเมืองและเป็นสถานที่จัดงานแสดงศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในนิวซีแลนด์อีกด้วย

Auckland Art Gallery

ซึ่งภายในจะมีการรวมภาพวาดและประติมากรรมของยุโรปตั้งแต่ศตวรรษที่ 14  นักท่องเที่ยวจะได้พบกับผลงานศิลปะมากกว่า 17,000 ชิ้น ผลงานศิลปะอันเก่าแก่ ผลงานศิลปะสไตล์ Modern และ Contemporary และอีกมากมาย 

เป็นยังไงกันบ้างคะ น่าอยู่ทุกเมือง ทุกประเทศเลยเพื่อนๆ คิดเหมือนกันไหมคะ ว่าแต่เพื่อนๆ ชอบเมืองไหนคะ ส่วนตัวแล้วพี่อัลติเมทชอบเมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย ค่ะ เพราะเมืองนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 1 ของโลก และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย บรรยากาศดี มีธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น

ถ้าหากเพื่อนๆได้ไปเยือน 1 ใน 10 ประเทศข้างต้น ก็อย่าลืมถ่ายรูปเช็คอิน แล้วมาอวดกันบ้างน้า ใครชอบบทความนี้ก็อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม แล้วพบกันไหมกับบทความหน้า วันนี้สวัสดีค่า

กด Like และ กดติดตามเราได้ที่

Facebook https://www.facebook.com/ultimatejourney8/

Ultimate Journey มีโปรแกรม ทัวร์ยุโรป หลากหลายเส้นทาง

โทร : 02-334-0081

Line Official : @ultimate.bkk (มี@ด้านหน้า)

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                               

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                             

บทความอื่น ๆ

Christmas Market

ฉลองเทศกาล Christmas ที่ประเทศเยอรมนี บอกเลยสายฝอ ห้ามพลาด!!

อีกไม่กี่วันเราก็จะเดินทางเข้าสู่เดือนธันวาคมแล้ว ซึ่งเป็นเดือนแห่งความสุข ความอบอุ่น และก็มีวันที่ทุกคนรอคอยกันมากที่สุด คือวันคริสต์มาสนั่นเอง หากเพื่อนๆ ต้องการชวนใครไปฉลองวัน Christmas หลายๆท่านคงนึกถึง ทัวร์ยุโรป แน่ๆ แต่หากเพื่อนๆ ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน? ถ้าเป็นอย่างนั้น เพื่อนๆ มาถูกที่แล้วค่ะ เพราะวันนี้ Ultimate Journey จะพาเพื่อนๆ ไปร่วมฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่ ประเทศเยอรมนี กันค่ะ  Credit : https://www.flickr.com/ แบบว่าเอาใจสาว ๆ สายฝ. โดยเฉพาะคนที่เล็งหนุ่มเยอรมันไว้ เผื่อปลายปีนี้หนุ่ม ๆ จะชวนบินไปฉลองคริสต์มาสบ้านเขา เราจะได้เป๊ะ หรือใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวเยอรมนีช่วงคริสต์มาสนี้ก็ห้ามพลาด รับรองว่าเพื่อนๆ จะได้เพลินเพลินไปกับบรรยากาศคริสต์มาสที่แสนอบอุ่น มาดูกันว่าประเพณีการฉลองคริสต์มาสแบบฉบับชาวเยอรมันนั้นทำอย่างไรบ้าง? ถ้าพร้อมแล้วเตรียมตัวออกเดินทางได้!! ในวันที่ 6 ธันวาคม บ้านเมืองจะเต็มไปด้วยถุงเท้าสำหรับใส่ของขวัญ เด็ก ๆในประเทศเยอรมนีจะได้รับถุงเท้าในวันนักบุญนิโคลัส วันที่ 6 ธันวาคม (เปิดเช้าวันรุ่งขึ้นในวันที่ 7 ธันวาคม) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ

Top 10 Watch

TOP 10 นาฬิกาแบรนด์หรูที่แพงที่สุด

นาฬิกานั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องประดับ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของศักดิ์ศรีและสถานะอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะมีนาฬิกาแบรนด์ต่าง ๆ มากมายนับไม่ถ้วน แต่มีเพียงไม่กี่แบรนด์เพียงเท่านั้นที่ขึ้นชื่อเรื่องของงานฝีมืออันประณีตและราคาที่สูงลิ่ว โดยวันนี้พี่อัลติเมทเจอร์นี่จะพามาสำรวจแบรนด์นาฬิกาหรูประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และ เยอรมัน ที่แพงที่สุด 10 อันดับแรก ที่บ่งบอกถึงความมั่งคั่งและความหรูหรา ตั้งแต่ความคลาสสิกเหนือกาลเวลาไปจนถึงนวัตกรรมสมัยใหม่เลยทีเดียว แบรนด์เหล่านี้ได้ก้าวข้ามขอบเขตที่มีไว้เพียงแค่เครื่องมือบอกเวลาและได้สร้างมาตรฐานใหม่ในนาฬิกาสุดหรูนี้ แล้วจะรอกันอยู่ทำไม มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีแบรนด์อะไรบ้างงง 1.A.Lange & Söhne Credit : https://www.alange-soehne.com/ A.Lange & Söhne แบรนด์นาฬิกาประเทศเยอรมัน ตัวแบรนด์นี้มีชื่อเสียงในเรื่องของความแม่นยำและการดีไซน์ที่ซับซ้อน นักสะสมต่างก็พากันมองหาพวกรุ่นลิมิเต็ดกันทั้งนั้น ซึ่งอาจจะมีราคามากถึงหลักล้านยูโร ตัวบริษัทนั้นโด่งดังขึ้นมาจากตัวนาฬิกา อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งมีรูปแบบของหน้าปัดที่ไม่เหมือนใครและการแสดงวันที่ขนาดใหญ่ กลไกอันซับซ้อนของ

Marry Christmas.

ทำไมเราถึงเรียกมันว่าคริสต์มาส?

เทศกาลแห่งความรักความอบอุ่น คริสต์มาสต์ (Christmas) เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองอันศักดิ์สิทธิ์ในวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี เป็นเวลากว่าสองพันปีที่ผู้คนทั่วโลกเฝ้าสังเกตประเพณีและการปฏิบัติที่มีทั้งทางศาสนาและทางโลก ชาวคริสต์เฉลิมฉลองวันคริสต์มาสเป็นวันครบรอบการประสูติของพระเยซูชาวนาซาเร็ธ ในการเฉลิมฉลองคริสต์มาสทางโลกนี้ บุคคลในตำนานชื่อซานตาคลอสมีบทบาทสำคัญ และมีที่ไหนจัดเทศกาลคริสต์มาสได้ดีไปกว่าประเทศในโซนยุโรป เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่คนไปเที่ยว ทัวร์ยุโรป กันมากที่สุด เราไปอ่านประวัติวันคริสต์มาสต์กันต่อ ทำไมเราถึงเรียกมันว่าคริสต์มาส? คำว่า Christmas  เป็นการผสมผสานระหว่าง คำว่า Christes และ Maesse ที่แปลว่า “พิธีมิสซาของพระคริสต์” พบครั้งแรก ในเอกสารโบราณ เป็นภาษาอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1038 และคำนี้ก็แปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas คำทักทายที่เราได้ฟังบ่อย ๆ ในเทศกาลนี้คือ Merry Christmas คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า สันติสุข และความสงบทางใจ คริสต์มาส มาร์เก็ต ที่ห้ามพลาดในยุโรป ทัวร์ยุโรปตะวันออก https://ultimatejourney.co.th/tour_category/toureurope/page/6/ คริสต์มา