ติดต่อสอบถาม

เปิดให้บริการ จันทร์ - ศุกร์ 09.30 - 18.30 น.

เสาร์ 09.30 - 15.30 น.

ไปอัมสเตอร์ดัมต้องไปทำ 9 สิ่งนี้ !!

Amsterdam

Ultimate Journey ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่อัมสเตอร์ดัม! เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ เปิดโลกกว้างด้วยการไป ทัวร์เนเธอร์แลนด์ เป็นอีกเมืองที่สวยงาม มีศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมเก่าแก่แบบยุโรปที่มาพร้อมกับบรรยากาศอันสุดแสนโรแมนติก มีบ้านสไตล์ขนมปังขิงที่สวยงามมากเหมือนกับว่าไม่มีอยู่จริงตั้งเรียงรายอยู่บริเวณสองฝั่งของคลองอัมสเตอร์ดัมอันเงียบสงบ

Amsterdam

นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีเรื่องราวประวัติศาสตร์มากมาย และพลาดไม่ได้กับการขี่จักรยาน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของเมืองนี้! เพราะมันเป็นการเดินทางเที่ยวชมเมืองที่ดีที่สุดในยุโรป อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองท่องเที่ยวที่นิยมเป็นอย่างมาก เช่น The dancing houses of Damrak,จัตุรัสดัมสแควร์ (dam square) และพระราชวัง(the Royal Palace) ถ้าอยากรู้แล้วว่าเมื่อมาถึงอัมสเตอร์ดัม ต้องทำอะไร และต้องไปเที่ยว ไปเช็คอินจุดไหนบ้าง เราไปดูกันเลยย!!!

  • เดินในย่าน Nine Streets (The 9 Straatjes)
  • เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในเมืองอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam Museums)
  • ล่องเรือชมเมืองอัมสเตอร์ดัม Cruise Amsterdam’s canals
  • Hortus Botanicus – Botanical Gardens (ฮอร์ตัส โบทานิคัส – สวนพฤกษศาสตร์)
  • ตะลุยร้านลับๆ ร้านอาหาร และคาเฟ่ในอัมสเตอร์ดัม
  • ช้อปปิ้งของวินเทจ
  • ปั่นจักรยานชมเมืองอัมสเตอร์ดัม
  • Vondelpark Amsterdam
  • เยี่ยมชมและถ่ายรูปกับกังหันลมที่ Zaanse Schans
The 9 Straatjes
Nine Streets

ถนน ‘9 Straatjes’ แปลตรงๆ ตัวเลยก็คือเป็นย่านที่ประกอบด้วยถนนเส้นเล็กๆ 9 สาย ซึ่งย่านนี้ถือว่าเป็นย่านที่ฮิปและชิคสุดในเมือง เต็มไปด้วยแกลเลอรี่ ร้านแซนด์วิช ร้านเสื้อผ้า รวมไปถึงสินค้าที่ไม่ใช่แบรนด์ทั่วไป จะออกเป็นแนวดีไซน์เนอร์แบรนด์ และมีคาเฟ่และร้านอาหารมากมาย  

9 Straatjes ถือสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เป็นส่วนหนึ่งของคลองอัมสเตอร์ดัม และยังเป็นมรดกโลกอีกด้วย การเดินทางไปย่านนี้ก็แสนจะง่ายมาก แค่เดินข้ามสะพานแรกหลังจัตุรัสดัมแควร์ ก็จะก้าวเข้าสู่ถนนเก้าสายซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับบ้านของแอนน์ แฟรงค์

Amsterdam Museums

เมืองอัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านพิพิธภัณฑ์ศิลปะและประวัติศาสตร์ Museumplein หรือจัตุรัสพิพิธภัณฑ์ ที่ล้อมรอบด้วยพิพิธภัณฑ์สำคัญๆและน่าสนใจของอัมสเตอร์ดัมทั้ง 4 แห่ง คือ  พิพิธภัณฑ์ริกส์ (Rijksmuseum) พิพิธภัณฑ์สเตเดลิช (Stedelijk Museum) พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (Van Gogh Museum) และพิพิธภัณฑ์โมโค (Moco Museum)

โดยทั้ง 4 แห่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดงผลงานศิลปะที่แตกต่างกัน ทั้งที่เป็นศิลปะดัชซ์ ศิลปะสมัยใหม่ (Modern Art) ศิลปะร่วมสมัย (Contemporary Art) และ ผลงานศิลปะของ Vincent Van Gogh นอกจากนี้ยังพลาดไม่ได้กับบ้านแอน แฟรงก์หรือพิพิธภัณฑ์ทางทะเล

พิพิธภัณฑ์ริกส์ (Rijksmuseum) หรือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวดินแดนกังหันลมแห่งนี้ เพราะที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศที่รวบรวมวัตถุโบราณ งานศิลปะเก่าแก่และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไว้มากมาย โดยในแต่ละปีนั้นมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้กว่าล้านคน

พิพิธภัณฑ์สเตเดลิช (Stedelijk Museum) สำหรับใครที่ชอบงานศิลปะใหม่ ห้ามพลาดที่จะเข้าชม Stedelijk Museum Amsterdam ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ระหว่างประเทศที่จัดแสดงผลงานศิลปะ และการออกแบบร่วมสมัย ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1874

Stedelijk Museum

พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (Van Gogh Museum) ป็นพิพิธภัณฑ์สไตล์ Modern ที่อยู่ในย่าน Museumplain ของกรุงอัมเตอร์ดัมส์ (ย่านนั้นจะมีมิวเซียมดีๆ มากมายเรียกว่าไปวันเดียว เก็บครบ) ที่นี่จะเก็บรวบรวมผลงานจำนวนมากที่สุดของศิลปินเอกชาวดัตช์ผู้นี้ไว้มากที่สุดในโลก โดยมีผลงานภาพสีกว่า 200 รูป รูปวาด 500 รูป และจดหมายที่เขียนด้วยลายมือกว่า 700 ฉบับ

Van Gogh Museum

พิพิธภัณฑ์โมโค (Moco Museum) พิพิธภัณฑ์โมโค เป็นพิพิธภัณฑ์ของศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัยจากศิลปินอย่าง Banksy และ Kaws ด้วยนิทรรศการศิลปะดิจิทัลของพวกเขา ทำให้ศิลปะดูเจ๋งขึ้นและดึงดูดผู้ชมที่อายุน้อยกว่า

Moco Museum
Amsterdam’s canals

ล่องเรือไปตามคลองในอัมสเตอร์ดัม ลอดใต้สะพานเก่า ๆ และผ่านบ้านที่งดงาม นี่อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะได้เห็นเมือง! จะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดแสนโรมแมนติก และเพลิดเพลินไปกับบ้านเรือนของชาวดัตช์ ทั้งนี้เราขอแนะนำให้เช่าเรือไฟฟ้า เพราะว่าเรือเหล่านี้จะเงียบและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่า

Cruise Amsterdam’s canals

ซึ่งนั้นก็แปลว่าเรือไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและแม่น้ำแน่นอน สำหรับคนที่มาคนเดียว กลัวเหงา กลัวไม่สนุก หรืออยากมีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยเราขอแนะนำ ร่วมล่องเรือคลองบนเรือสำราญร่วมกันกับผู้อื่น จะมีไกด์บนเรือ อธิบายเกี่ยวกับเมืองและประวัติของเมืองให้นักท่องเที่ยวได้ฟังตลอดเส้นทาง

Hortus Botanicu

สวนพฤกษศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ใจกลางกรุงอัมสเตอร์ดัม! ก่อตั้งขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ฮอร์ตัส โบตานิคัส (Hortus Botanicus) มีพืชพันธู์ไม้มากกว่า 4,000 ชนิด ปลูกทั้งภายนอก และภายในเรือนกระจก เดิมในปี ค.ศ.1638 เป็นสวนสมุนไพร

ภายในแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ โซนเรือนกระจกได้รับการปรับสภาพบรรยากาศ ปลูกต้นไม้ร้อนชื้น มีเรือนกระจกสำหรับเพาะผีเสื้อ มีร้านค้าขายของน่ารัก เช่น สบู่กลิ่นดอกไม้ต่างๆ ซึ่งบอกเลยว่าหอมมาก ปัจจุบันมีเรือนกระจก บ้านผีเสื้อ บ้านปาล์ม และสวนกลางแจ้งที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก

Bar Botanique 

ในอัมสเตอร์ดัมมีร้านกาแฟและร้านอาหารที่น่าทึ่งเยอะแยะมาก แต่เราจะพาทุกท่านไปตะลุยร้านลับๆ สถานที่ไม่เหมือนใคร มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และอาหารรสชาติดี ที่สำคัญเหมาะมากกับคนที่อยากไปร้านที่คนไม่พลุกพล่าน ได้สัมผัสกับบรรยากาศของร้านอย่างแท้จริง เพราะร้านที่เรายกมานั้นไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ไปดูกันเลยว่าจะมีร้านอะไรบ้าง

Bar Botanique บาร์ โบ ตา นีค หรือที่เขาเรียกกันว่า “โอเอซิสสีเขียวที่อยู่ใจกลางย่านที่มีสีสันและมีชีวิตชีวา” ร้านถูกตกแต่งอย่างสวยงามและมีเอกลักษณ์ แถมอาหารก็ยังอร่อย และนอกจากนั้นยังมีตัวเลือกสำหรับเมนูมังสวิรัติอีกด้วย

Pllek เขาว่ากันว่าเมื่อมาถึงอัมสเตอร์ดัมแล้วต้องมาที่ร้านนี้ เพราะที่นี่ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำในฤดูร้อนร้านอาหารในอัมสเตอร์ดัมนี้ ตั้งอยู่บริเวณของชายหาดของเมืองPllek สร้างจากตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งเก่า และตกแต่งด้วยของมือสองและของรีไซเคิลส่วนใหญ่ อาหารของพวกเขาทำจากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค และพวกเขายังมีเมนูมังสวิรัติให้เลือกอีกด้วย และวิธีที่ง่ายที่สุดที่สำหรับการเดินทางไปร้านนี้ คือนั่งเรือเฟอร์รี่จากสถานีกลางอัมสเตอร์ดัม

Waterkant วอเตอร์คานท์ เป็นร้านที่ตั้งอยู่บริเวณริมน้ำ ตั้งอยู่ใกล้กับ ‘ Nine Streets ทางร้านที่มีที่นั่งทั้งด้านนอกและด้านใน อาหารอร่อย เครื่องดื่มหลากหลาย แถมยังติดกับริมคลองอีกด้วย หนุ่มๆสาวๆเขาฮิตไปที่นี่กันนะ จะบอกให้


De Ceuvel Cafe  ร้านกาแฟ De Ceuvel Cafe เป็นร้านคาเฟ่ที่สร้างสรรค์สำหรับการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเขียว เน้นธรรมชาติ อยู่ท่ามกลางแสงแดดและตั้งอยู่ริมน้ำ ร้านนี้ตั้งอยู่ในอัมสเตอร์ดัมเหนือ วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะไปถึงที่นั่นคือการใช้รถไฟใต้ดิน ที่สำคัญร้านปิดทุกวันจันทร์นะคะ

Amsterdam Vintage

เมื่อมาถึงอัมสเตอร์ดัม เมืองแห่งศิลปะแล้ว แน่นอนว่าต้องพลาดไม่ได้ กับการช้อปปิ้งของวินเทจ เป็นของที่แสดงถึงความเป็นอัมสเตอร์ดัม มีร้านค้ามือสองที่ไม่เหมือนใครและยอดเยี่ยมมากมายทั่วเมือง และเสื้อผ้าวินเทจเป็นที่นิยมมากเพราะเป็นสินค้าที่ถูกและมีคุณภาพ แถมราคายังไม่แพง แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย!

Bike

เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่ใช้จักรยาน มีจักรยานมากกว่า 23 ล้านคัน และมีประชากร 17 ล้านคน! การเช่าจักรยานในอัมสเตอร์ดัม จะทำให้เราสำรวจเมืองง่ายขึ้นและสามารถผจญภัยได้อย่างเต็มที่ และพลาดไม่ได้เลยถ้าปั่นจักรยานแล้วต้องปั่นผ่านย่านจอร์แดนซึ่งเป็นย่านที่สวยที่สุด!

ถ่ายรูปเช็คอินจุดนี้ไปอวดคนอื่น รับรองว่ามีอิจฉาแน่นอน อย่างไรก็ตาม การขี่จักรยานในอัมสเตอร์ดัมต้องปฏิบัติตามกฎที่เขาตั้งไว้ด้วย ตัวอย่างเช่น ใช้เลนจักรยาน, ระวังรางรถไฟ, สร้างที่ว่างให้คนอื่นเสมอ, และล็อกจักรยานของคุณเสมอ

Amsterdam Bike

Black Bike – จักรยานที่คนท้องถิ่นจะขับ รับ-ส่ง 13 สถานที่

MacBike –   เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะมีราคาถูก และเป็นจักรยานที่นิยมมากที่สุด

Yellow Bike – เช่าจักรยานและไกด์ทัวร์

Vondelpark Amsterdam

หนึ่งในสวนสาธารณะที่กว้างใหญ่และเก่าแก่สุดในอัมสเตอร์ดัมนี้ เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ รับประทานมื้อกลางวัน หรือชมการแสดงหลังจากเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ใกล้เคียงแล้ว Vondelpark เป็นอนุสาวรีย์หลักและจุดยอดนิยมของกรุงอัมสเตอร์ดัมในช่วงฤดูร้อน เป็นสถานที่ที่ชาวเมืองจะมาอาบแดด ปั่นจักรยาน หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง

นอกจากนี้ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่นี่ยังจัดแสดงคอนเสิร์ตและการแสดงต่างๆ อีกด้วย ทุกๆ ปีมีคนเยี่ยมเยือนสวนนี้กว่า 10 ล้านคนเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติและวัฒนธรรม รวมถึงจิบเครื่องดื่มและรับประทานอาหารที่ระเบียงของร้านอาหารต่างๆ

Zaanse Schans

มาถึงสิ่งสุดท้ายที่ต้องทำเมื่อมาถึงอัมสเตอร์ดัม นั้นก็คือ ไปชมกังหันลมที่ซานเซ ชานส์ ซึ่งกังหันลมถือเป็นสัญลักษณ์ วัฒนธรรมและมรดกของประเทศเนเธอร์แลนด์ Zaanse Schans เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่สนุกสำหรับทุกเพศทุกวัย เปิดตลอดทั้งปี เป็นสวนกลางแจ้งเข้าฟรี

มีการสะสมกังหันลมในอดีตเอาไว้ด้วย สามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ทุกช่วงเวลาและตลอดทั้งปี ซึ่งกังหันลมส่วนใหญ่จะเปิดให้เข้าชมได้แค่เดือนเมษายนถึงตุลาคม นอกจากจะถ่ายรูป เช็คอินหรือชื่นชมกับ

กังหันลมแล้ว คุณยังสามารถแวะชมร้านขายของที่ระลึก รองเท้า clogs หรือรองเท้าพื้นเมืองของเนเธอร์แลนด์ที่แกะสลักมาจากไม้ ซึ่งรองเท้าแบบนี้มีมานานกว่าหนึ่งร้อยปี ซึ่งมันคือต้นแบบของแบรนด์ crocs นั่นเอง หรือเยี่ยมชมฟาร์มชีสใกล้กับ Zaanse Schans ได้ค่ะ

clogs

ข้อควรสำคัญที่ต้องจำ!!!

มีสิ่งอื่น ๆ อีกเยอะแยะมากมายที่ต้องทำในอัมสเตอร์ดัมที่ไม่ได้ระบุชื่อไว้ในคู่มือท่องเที่ยว ดังนั้น เราจึงขอแนะนำกฎพื้นฐานสักสองสามข้อและความเข้าใจผิดทั่วไปของการมาเที่ยวที่อัมสเตอร์ดัม

  • ถึงแม้ว่าการสูบกัญชาถูกกฎหมายในอัมสเตอร์ดัม แต่คุณไม่สามารถสูบได้ทุกที่ สามารถสูบได้แค่เฉพาะในร้านกาแฟเท่านั้น! ตำรวจจะปรับคุณหากคุณสูบกัญชาในพื้นที่ที่สาธารณะ หรือสถานที่ที่ทางรัฐบาลจัดตั้งไว้ให้เท่านั้น!
  • ห้ามถ่ายรูปผู้หญิงในย่านโคมแดง Red Light District
  • ดอกทิวลิปไม่ได้ตั้งอยู่ในอัมสเตอร์ดัม แต่คุณสามารถไปชมดอกทิวลิปใกล้อัมสเตอร์ดัมได้ที่ Lisse, Keukenhof หรือ Noordoost polder
  • Kingsday เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ เดิมทีรู้จักกันในชื่อ ควีนส์เดย์ และเฉลิมฉลองในวันที่ 30 เมษายน ขณะนี้คิงส์เดย์จะฉลองกันในวันที่ 27 เมษายน ซึ่งเป็นวันเกิดของวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ ผู้สืบราชสมบัติในปี 2013 ได้มีการเฉลิมฉลองควีนส์หรือคิงส์เดย์มาตั้งแต่ปี 1885 และเป็นวันที่ทุกคนในประเทศเนเธอร์แลนด์จะสวมใส่เครื่องแต่งกายสีส้ม เพื่อเป็นเกียรติแด่ราชวงศ์ออเรนจ์-นัสเซาแห่งเนเธอร์แลนด์ ประชาชนจะพากันไปขายของริมถนน มีของขายมากมาย สามารถร่วมงานนี้ได้ในทุกเมืองของเนเธอร์แลนด์

เป็นยังไงกันบ้างง ได้รู้กันพอหอมปากหอมคอแล้วว่าถ้าจะไปอัมสเตอร์ดัม ต้องไปทำอะไรบ้าง รับรองไปแบบไม่เหงาแน่นอน แต่9 สิ่งที่ Ultimate Journey ยกมาเป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น ยังมีสิ่งอื่นอีกมากมายเมื่อมาแล้วต้องทำ ต้องไปลอง หวังว่าทุกคนจะชอบบทความนี้กันนะคะ

ใครได้ไปเที่ยวที่อัมสเตอร์ดัมแล้วแวะมาบอกกันบ้างน้าว่าได้ไปทำอะไรกันมาบ้าง แล้วสนุกแค่ไหน

สำหรับครั้งหน้า Ultimate Journey จะพาทุกคนไปไหน ไปกินอะไร อย่าลืมกดติดตามเพื่อไม่ให้พลาดกับบทความครั้งหน้า วันนี้ไปแล้วค่า

กด Like และ กดติดตามเราได้ที่

Facebook https://www.facebook.com/ultimatejourney8/

Ultimate Journey มีโปรแกรม ทัวร์เนเธอร์แลนด์ หลากหลายเส้นทาง

โทร : 02-334-0081

Line Official : @ultimate.bkk (มี@ด้านหน้า)

บทความอื่น ๆ

Christmas Market

ฉลองเทศกาล Christmas ที่ประเทศเยอรมนี บอกเลยสายฝอ ห้ามพลาด!!

อีกไม่กี่วันเราก็จะเดินทางเข้าสู่เดือนธันวาคมแล้ว ซึ่งเป็นเดือนแห่งความสุข ความอบอุ่น และก็มีวันที่ทุกคนรอคอยกันมากที่สุด คือวันคริสต์มาสนั่นเอง หากเพื่อนๆ ต้องการชวนใครไปฉลองวัน Christmas หลายๆท่านคงนึกถึง ทัวร์ยุโรป แน่ๆ แต่หากเพื่อนๆ ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน? ถ้าเป็นอย่างนั้น เพื่อนๆ มาถูกที่แล้วค่ะ เพราะวันนี้ Ultimate Journey จะพาเพื่อนๆ ไปร่วมฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่ ประเทศเยอรมนี กันค่ะ  Credit : https://www.flickr.com/ แบบว่าเอาใจสาว ๆ สายฝ. โดยเฉพาะคนที่เล็งหนุ่มเยอรมันไว้ เผื่อปลายปีนี้หนุ่ม ๆ จะชวนบินไปฉลองคริสต์มาสบ้านเขา เราจะได้เป๊ะ หรือใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวเยอรมนีช่วงคริสต์มาสนี้ก็ห้ามพลาด รับรองว่าเพื่อนๆ จะได้เพลินเพลินไปกับบรรยากาศคริสต์มาสที่แสนอบอุ่น มาดูกันว่าประเพณีการฉลองคริสต์มาสแบบฉบับชาวเยอรมันนั้นทำอย่างไรบ้าง? ถ้าพร้อมแล้วเตรียมตัวออกเดินทางได้!! ในวันที่ 6 ธันวาคม บ้านเมืองจะเต็มไปด้วยถุงเท้าสำหรับใส่ของขวัญ เด็ก ๆในประเทศเยอรมนีจะได้รับถุงเท้าในวันนักบุญนิโคลัส วันที่ 6 ธันวาคม (เปิดเช้าวันรุ่งขึ้นในวันที่ 7 ธันวาคม) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ

Top 10 Watch

TOP 10 นาฬิกาแบรนด์หรูที่แพงที่สุด

นาฬิกานั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องประดับ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของศักดิ์ศรีและสถานะอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะมีนาฬิกาแบรนด์ต่าง ๆ มากมายนับไม่ถ้วน แต่มีเพียงไม่กี่แบรนด์เพียงเท่านั้นที่ขึ้นชื่อเรื่องของงานฝีมืออันประณีตและราคาที่สูงลิ่ว โดยวันนี้พี่อัลติเมทเจอร์นี่จะพามาสำรวจแบรนด์นาฬิกาหรูประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และ เยอรมัน ที่แพงที่สุด 10 อันดับแรก ที่บ่งบอกถึงความมั่งคั่งและความหรูหรา ตั้งแต่ความคลาสสิกเหนือกาลเวลาไปจนถึงนวัตกรรมสมัยใหม่เลยทีเดียว แบรนด์เหล่านี้ได้ก้าวข้ามขอบเขตที่มีไว้เพียงแค่เครื่องมือบอกเวลาและได้สร้างมาตรฐานใหม่ในนาฬิกาสุดหรูนี้ แล้วจะรอกันอยู่ทำไม มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีแบรนด์อะไรบ้างงง 1.A.Lange & Söhne Credit : https://www.alange-soehne.com/ A.Lange & Söhne แบรนด์นาฬิกาประเทศเยอรมัน ตัวแบรนด์นี้มีชื่อเสียงในเรื่องของความแม่นยำและการดีไซน์ที่ซับซ้อน นักสะสมต่างก็พากันมองหาพวกรุ่นลิมิเต็ดกันทั้งนั้น ซึ่งอาจจะมีราคามากถึงหลักล้านยูโร ตัวบริษัทนั้นโด่งดังขึ้นมาจากตัวนาฬิกา อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งมีรูปแบบของหน้าปัดที่ไม่เหมือนใครและการแสดงวันที่ขนาดใหญ่ กลไกอันซับซ้อนของ

Marry Christmas.

ทำไมเราถึงเรียกมันว่าคริสต์มาส?

เทศกาลแห่งความรักความอบอุ่น คริสต์มาสต์ (Christmas) เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองอันศักดิ์สิทธิ์ในวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี เป็นเวลากว่าสองพันปีที่ผู้คนทั่วโลกเฝ้าสังเกตประเพณีและการปฏิบัติที่มีทั้งทางศาสนาและทางโลก ชาวคริสต์เฉลิมฉลองวันคริสต์มาสเป็นวันครบรอบการประสูติของพระเยซูชาวนาซาเร็ธ ในการเฉลิมฉลองคริสต์มาสทางโลกนี้ บุคคลในตำนานชื่อซานตาคลอสมีบทบาทสำคัญ และมีที่ไหนจัดเทศกาลคริสต์มาสได้ดีไปกว่าประเทศในโซนยุโรป เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่คนไปเที่ยว ทัวร์ยุโรป กันมากที่สุด เราไปอ่านประวัติวันคริสต์มาสต์กันต่อ ทำไมเราถึงเรียกมันว่าคริสต์มาส? คำว่า Christmas  เป็นการผสมผสานระหว่าง คำว่า Christes และ Maesse ที่แปลว่า “พิธีมิสซาของพระคริสต์” พบครั้งแรก ในเอกสารโบราณ เป็นภาษาอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1038 และคำนี้ก็แปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas คำทักทายที่เราได้ฟังบ่อย ๆ ในเทศกาลนี้คือ Merry Christmas คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า สันติสุข และความสงบทางใจ คริสต์มาส มาร์เก็ต ที่ห้ามพลาดในยุโรป ทัวร์ยุโรปตะวันออก https://ultimatejourney.co.th/tour_category/toureurope/page/6/ คริสต์มา