ติดต่อสอบถาม

เปิดให้บริการ จันทร์ - ศุกร์ 09.30 - 18.30 น.

เสาร์ 09.30 - 15.30 น.

โคลอสเซียม Colossuem 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก!!!

colosseum rome

วันนี้ Ultimate Journey จะพาทุกคนไปรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่นึง ซึ่งอยู่ใจกลางของเมืองกรุงโรม นั่นก็คือโคลอสเซียมนั่นเอง โคลอสเซียมถือเป็นสัญลักษณ์หลักของกรุงโรม และเป็นสิ่งก่อสร้างที่น่าประทับใจที่มีประวัติศาสตร์เกือบ 2,000 ปี

เราไปดูกันดีกว่าว่าโคลอสเซียมมีประวัติความเป็นมาอย่างไร และทำไมถึงกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่ใครไปอิตาลีต้องถือว่าห้ามพลาด  ตอนนี้ได้เวลาแล้วที่เราจะนำทุกคนกลับไปสู่ในช่วงเวลาของจักรวรรดิโรมัน

โคลอสเซียมก่อสร้างขึ้นในปี 72 ภายใต้จักรวรรดิเวสปาเซียน และเสร็จสิ้นในปี 80 ระหว่างการปกครองของจักรพรรดิติตัส หลังจากสร้างเสร็จสิ้น โคลอสเซียมกลายเป็นโรงละครโรมันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีความยาว 188 เมตร กว้าง 156 เมตร สูง 57 เมตร

colossuem

โคลอสเซียมในอดีต

โคลอสเซียมถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจของเวสปาเรียน จักรพรรดิโรม พระองค์เริ่มครองราชย์ในปี ค.ศ. 69 และด้วยความต้องการที่จะหล่อหลอมราชวงศ์ขึ้นใหม่สำหรับตระกูลของพระองค์ จึงริเริ่มการก่อสร้าง Mega Projectขึ้น

โคลอสเซียมก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น และนี่ทำให้โคลอสเซียมเป็นสนามกีฬาของโรมที่ใหญ่ที่สุดและแพงที่สุดเท่าที่มีการสร้างขึ้น ด้วยทรัพย์สินตั้งแต่โต๊ะไปจนถึงเชิงเทียนทองคำแท้ที่โรมปล้นมาจากการยึดพระวิหารที่เยรูซาเลม โคลอสเซียมสามารถจุผู้คนได้ประมาณ 50,000 คน และสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 80 เพื่อใช้แทนสนามกีฬาไม้ซึ่งถูกเผาไปในรัชสมัยของจักรพรรดิเนโร

 Bread and Circuses

ในช่วงของจักรวรรดิโรมันมีวลีหรือสำนวนที่ว่า ” Bread and Circuses” หรือที่แปลว่า ขนมปังและละครสัตว์ หรือขนมปังกับเกมส์ ก็ได้ ซึ่งโรงละครโรมันโคลอสเซียม (ที่รู้จักกันในเวลานั้นในชื่อโรงละครฟลาเวียน) ทำให้ผู้คนกว่า 50,000 คนเพลิดเพลินกับภาพการแสดงที่ดีที่สุดของในยุคนั้น    

ภายในโคลอสเซียมจะมีการนิทรรศการสัตว์แปลกๆ, การประหารนักโทษ, นันทนาการในการสู้รบ, และการต่อสู้แบบกลาดิเอเตอร์ หรือสู้กับสัตว์ป่า อาทิ สิงโต เสือ และช้าง เป็นต้น โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน และบางทีอาจจะมีแสดงการต่อสู้ระหว่างสัตว์ป่าด้วยกันเอง เช่น เสือสู้กับสิงโต กระทิงสู้กับหมี ฯลฯ

ซึ่งหลังจากตรงนี้ในหน้าประวัติศาสตร์ ได้คาดการณ์ว่าสัตว์ที่นำมาต่อสู้ มีเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 5000 ตัว ทำให้สัตว์บางสายพันธุ์ บางชนิดเกือบสูญพันธ์ไปและบางชนิด บางสายพันธุ์ก็สูญพันธุ์ไปเลย เรียกว่าสมัยนั้นมีอะไรที่ต่อสู้กันได้ ก็ไม่พ้นถูกจับให้มาประลองที่โคลอสเซียมอย่างแน่นอน

colosseum rome

แต่อย่างไรก็ตามเกมต่อสู้ระหว่าง เกลดิเอเตอร์ ยังคงเป็นกีฬายอดฮิตที่สุดของผู้ชมชาวโรมันในสมัยนั้น จากหลักฐานบ่งบอกได้ว่า การต่อสู้ประเภทนี้มีมาก่อนการสร้างโคลอสเซียมเสียอีก แต่ในสมัยต่อมาจึงการพัฒนากฏ กติกา ต่างๆ แปลกใหม่ขึ้นมา

เพื่อเพิ่มความเร้าใจให้กับคนดูนั่นเอง สิ่งเหล่านี้ทำให้ชาวโรมันได้รับความบันเทิง ความสนุกเป็นเวลาหลายปี โคลอสเซียมยังคงจัดการแสดงแบบนี้มานานกว่า 500 ปี และเกมส์ที่บันทึกไว้ล่าสุดในประวัติศาสตร์คือช่วงในศตวรรษที่ 6 และตั้งแต่ศตวรรษที่ 6

โคลอสเซียมได้รับความเดือดร้อนจากการปล้นสะดม แผ่นดินไหว และแม้กระทั่งการระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยแสดงให้เห็นถึงสัญชาตญาณการอยู่รอดอันยิ่งใหญ่ โคลอสเซียมจึงถูกใช้เป็นคลังเก็บของโบสถ์,สุสาน,หรือแม้แต่ปราสาทสำหรับชนชั้นสูงเป็นเวลาหลายสิบปี

การบูรณะโคลอสเซียม

ยุคบูรณะซ่อมแซม จากภัยธรรมชาติแผ่นดินไหวหลายครั้ง และภาวะสงคราม ซึ่งกรุงโรมถูกรุกรานบ่อยครั้งดังกล่าว ทำให้ โคลอสเซียม เดิมพังทลายไปเกือบหมด งานบูรณะซ่อมแซมจึงเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 217 แต่ก็ถูกทอดทิ้งในเวลาต่อมา

หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของอิตาลี ต่อมา โป๊ปเกรกอเรียส แมกนุส องค์ประมุขคริสตจักรคาทอลิก ในช่วงปี ค.ศ. 590-604 ได้ทำการบูรณะ และเปลี่ยน โคลอสเซียม ให้เป็นโบสถ์ สนามประลองยุทธ์อันเลื่องชื่อ จึงกลายเป็นโบสถ์ตั้งแต่นั้นมา

จนถึงยุคนโปเลียนขึ้นครองราชย์ ระหว่างปี 1809-1815 โคลอสเซียม ได้รับการบูรณะซ่อมแซมมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดอายุกว่า 1,900 ปี ล่าสุดเมื่อปี ค.ศ. 1992 ธนาคารเอกชนแห่งหนึ่ง ได้ให้งบประมาณบูรณะ โคลอสเซียม ครั้งใหญ่ แล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 2003 ปัจจุบัน โคลอสเซียม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกรุงโรม หรืออาจจะมากที่สุดในอิตาลีก็เป็นได้

ทำไมถึงต้องมาเที่ยวที่โคลอสเซียม

ต้องยอมรับว่าในอดีตการจะสร้างอะไรสักอย่างหนึ่งเป็นเรื่องที่ยาก เพราะไม่ได้มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยเหมือนกับในปัจุบัน ในด้านสถาปัตยกรรมของโคลอสเซียมเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจ และน่าทึ่งมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบกลไกต่างๆภายในโคลอสเซียม การก่อสร้างหรือวิศวกรที่ก่อสร้างทุกๆอย่าง

ในขณะที่ในยุคนั้นไม่ได้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่จะสามารถทำอะไรได้ขนาดนี้ และความน่าทึ่งอีกหนึ่งอย่างก็คือ ทางนักโบราณคดีเขาเชื่อกันว่า โคลอสเซียมสมัยก่อนมีแนวโน้มว่า Titas อาจจะเคยนำน้ำมาปล่อยในสนามกีฬาโคลอสเซียม และมีการสู้รบกันทางเรืออีกด้วย

ได้พบหลักฐานการยืนยันทางด้านประวัติศาสตร์ เพราะตามข้อมูลได้บอกว่าเขามีการค้นพบทางระบายน้ำ และมีการค้นพบระบบไฮดรอลิค เป็นไปได้สูงเลยที่จะมีการปล่อยน้ำเข้าไปในโคลอสเซียม และมีการต่อสู้ทางเรือในนั้นด้วย ซึ่งนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนไปเยี่ยมชมที่โคลอสเซียม   

แม้ประวัติของโคลอสเซียมจะเต็มไปด้วยความโหดร้ายและหดหู่ แต่ถ้าพูดถึงรูปแบบการก่อสร้างแล้ว ก็ต้องยกนิ้วให้กับชาวโรมันในยุคนั้นจริงๆ ค่ะ ที่สามารถสร้างสนามกีฬาที่มีขนาดใหญ่และแข็งแรงได้ขนาดนั้น น่าทึ่งมากๆ และยังเป็นต้นแบบของสนามกีฬาในยุคปัจจุบันอีกด้วย ไม่แปลกใจเลยหากโคลอสเซียมจะได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

เป็นยังไงกันบ้างคะ ถือว่าได้รู้ข้อมูล เรื่องราว ประวัติศาสตร์ของโคลอสเซียมกันอย่างเต็มที่เต็มเหนี่ยวเลยทีเดียว แล้วพวกคุณมีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้กันบ้าง ใครได้ไปเที่ยวที่กรุงโรม อย่าลืมถ่ายรูป เช็คอินกับโคลอสเซียม แล้วเอามาอวดให้ดูกันบ้างน้า ถ้าชอบบทความนี้ อย่าลืม กดไลค์ กดติดตาม กดแชร์ ให้ Ultimate Journey ด้วยนะ แล้วครั้งหน้าพี่อัลติเมทจะพาไปไหน ไปกินอะไร รอติดตามด้วยนะคะ

กดติดตาม อัลติเมท เจอร์นี่ ด้วยนะค่าา https://ultimatejourney.co.th/

บทความอื่น ๆ

ทัวร์ฟินแลนด์

7 สถานที่ท่องเที่ยว ในประเทศฟินแลนด์

ฟินแลนด์ดินแดนบ้านเกิดซานตาคลอส เป็นประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป ใกล้กับประเทศสวีเดน นอร์เวย์ และรัสเซีย ฟินแลนด์เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยทะเลสาบและภูเขา การท่องเที่ยวฟินแลนด์ส่วนใหญ่จึงเป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาตินั่นเอง ฟินแลนด์มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สวัสดิการดูแลสุขภาพฟรี รวมถึงระบบการศึกษาที่ดีเยี่ยม ด้วยเหตุนี้ เราจึงรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวของฟินแลนด์มาฝากทุกคนกัน ว่าประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก เขามีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนน่าเที่ยวกันบ้าง 1.เฮลซิงกิ (Helsinki) ธิดาแห่งทะเลบอลติก เฮลซิงกิเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฟินแลนด์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เฮลซิงกิเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ ๆ ไม่กี่แห่งในยุโรปที่มีโอกาสได้เห็นหิมะตกในวันคริสต์มาส และเป็นอีกหนึ่งเมืองของประเทศแถบนอร์ดิกที่รุ่มรวยวัฒนธรรมและเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามน่าสนใจ เป็นโบสถ์ศาสนาคริสต์นิกายลูเธอร์รัน เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก มีความงดงาม คลาสสิก สร้างตามสถาปัตยกรรมกรีกและโรมันโบราณ มหาวิหารแห่งนี้เป็นหน

colosseum rome

โคลอสเซียม Colossuem 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก!!!

วันนี้ Ultimate Journey จะพาทุกคนไปรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่นึง ซึ่งอยู่ใจกลางของเมืองกรุงโรม นั่นก็คือโคลอสเซียมนั่นเอง โคลอสเซียมถือเป็นสัญลักษณ์หลักของกรุงโรม และเป็นสิ่งก่อสร้างที่น่าประทับใจที่มีประวัติศาสตร์เกือบ 2,000 ปี เราไปดูกันดีกว่าว่าโคลอสเซียมมีประวัติความเป็นมาอย่างไร และทำไมถึงกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่ใครไปอิตาลีต้องถือว่าห้ามพลาด  ตอนนี้ได้เวลาแล้วที่เราจะนำทุกคนกลับไปสู่ในช่วงเวลาของจักรวรรดิโรมัน โคลอสเซียมก่อสร้างขึ้นในปี 72 ภายใต้จักรวรรดิเวสปาเซียน และเสร็จสิ้นในปี 80 ระหว่างการปกครองของจักรพรรดิติตัส หลังจากสร้างเสร็จสิ้น โคลอสเซียมกลายเป็นโรงละครโรมันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีความยาว 188 เมตร กว้าง 156 เมตร สูง 57 เมตร โคลอสเซียมในอดีต โคลอสเซียมถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจของเวสปาเรียน จักรพรรดิโรม พระองค์เริ่มครองราชย์ในปี ค.ศ. 69 และด้วยความต้องการที่จะหล่อหลอมราชวงศ์ขึ้นใหม่สำหรับตระกูลของพระองค์ จึงริเริ่มการก่อสร้าง Mega Projectขึ้น โคลอสเซียมก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น และนี่ทำให้โคลอสเซียมเป็นสนามกีฬาของโรมที่ใหญ่ที่สุดและแพงที่สุด

ทัวร์สวีเดน

10 สถานที่น่าเที่ยวใน สวีเดน ที่คุณต้องไปสักครั้ง

สวีเดนเป็นประเทศที่ใครหลายๆ คนคงจะคุ้นเคย และอยากจะลองไปดูสักครั้ง ก่อนที่จะไป ตอนนี้คุณคงจะค้นหาสถานที่ที่น่าไปท่องเที่ยวของสวีเดนอยู่ใช่ไหมล่ะคะ เราได้เตรียม 10 สถานที่น่าเที่ยวในสวีเดน ที่คุณต้องไปสักครั้ง มาให้คุณเลือกไว้จดในแพลนการท่องเที่ยวของคุณเรียบร้อยแล้วค่ะ เอาล่ะ ไปเลือกกันเลยดีกว่าค่ะ 1.พระราชวังกรุงสตอกโฮล์ม (Stockholm Royal Palace) ในภาษาสวีดิชจะเรียกว่า Stockholms Slott นั้นตั้งอยู่ที่ Gamla Stan (Old Town) ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 นาทีโดยการเดินเท้า พระราชวังสตอกโฮล์มสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมบาโรก พระราชวังมีความสูงถึง 7 ชั้น มีห้องต่างๆ ถึง 600 ห้อง ตกแต่งแบบดั้งเดิม ผนังประดับด้วยภาพเขียน ภายในพระราชวังมีพิพิธภัณฑ์อยู่สองแห่งทั้งในส่วนของ Gustav III’s Museum of Antiquities ซึ่งจะมีประติมากรรมสไตล์อิตาเลียนกว่า 200 ชิ้น ส่วนพิพิธภัณฑ์ Tre Kronor นั้นจะเป็นการจัดเเสดงเรื่องราวของเหตุการณ์ไฟไหม้พระราชวังในปี ค.ศ.1697 มีความเก่าเเก่เเละมีความสวยงามพร้อมกับความสำคัญอย่างมาก เเละที่พลาดไม่ได้คือการมาชมการเปลี่ยนเวรยามของทหารรักษาพระองค์สวีเดนที่จะใช้เว