ติดต่อสอบถาม

เปิดให้บริการ จันทร์ - ศุกร์ 09.30 - 18.30 น.

เสาร์ 09.30 - 15.30 น.

เที่ยวอิตาลี กินอะไรดี? 11 อาหารอิตาเลียนที่ห้ามพลาดเมื่อได้ไปเที่ยว

ไปอิตาลี

เปิดมาก็หิวเลยยย เที่ยวอิตาลี กินอะไรดี? เพราะวันนี้ Ultimate Journey จะพาทุกท่าน รู้จักของกิน ของอร่อยที่ประเทศอิตาลี  วันนี้ขอนำเสนอ 11 อาหารอิตาเลียน เมนูสูตรดั้งเดิม ที่มีมากกว่าแค่ พิซซ่า 

ต้องบอกเลยว่า เมนูอาหารอิตาเลียนที่เรากินนั้นเรียกได้ว่าเป็นส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรารู้จักกัน เพราะที่อิตาลี ผู้คนนิยมทานเมนูอาหารหลากหลายประเภท ซึ่งบางเมนูเราอาจจะไม่คุ้นเคยหรือเพิ่งเคยได้ยินชื่อ

จะมีเมนู อาหารอิตาเลียน ยอดนิยม อะไรบ้าง ใครที่ได้ชิมจะต้องบอกว่า อร่อย เวอร์… เอ้อ… เอ้อ…เอ้อ งั้นมาดูกันเลยดีกว่าว่าจะน่ากินขนาดไหนไปดูกันเลย

1.บรูเชตตา (Bruschetta)

อาหารทานเล่นหรืออาหารเรียกน้ำย่อยชื่อดังของอิตาลี มีลักษณะเป็นขนมปังปิ้งที่ทาด้วยกระเทียม เกลือ และน้ำมันมะกอกด้านบนขนมปัง

สามารถเลือกท็อปปิ้งอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น มะเขือเทศ หัวหอม มอสซาเรลลาชีส พาสลีย์ และอื่น ๆ เมนูประเภทนี้เป็นเมนูที่กินง่าย ทำไม่ยาก

คนอิตาเลียนจึงนิยมทานกันในมื้อเช้าของแต่ละวัน พร้อมเครื่องดื่มต่าง ๆ หรือซุปร้อน ๆ ให้อารมณ์เหมือนกินขนมปังปิ้งกับนมสดช่วงเช้า ๆ ของที่ไทยนั่นเอง

2.ลาซานญา (Lasagna)

เมนูอาหารต่อมา คงหนีไม่พ้น ลาซานญา ที่มีพบเห็นตามร้านพิซซ่าต่าง ๆ หรืออาหารอิตาเลียนชื่อดัง

ตอนเด็ก ๆ และในสมัยก่อนที่เราดูการ์ตูนหรือหนังลาซานญามักจะเป็นของโปรดของกาฟิวส์ที่ชอบทานซึ่งลาซานญานั้นก็เป็นอาหารอิตาเลียน ยอดนิยมอย่างที่หลาย ๆ คนรู้จัก

มีลักษณะกว้าง ๆ แบน ๆ ทำจากเส้นพาสต้า ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ซึ่งแต่ละชั้นก็ประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์และผักต่าง ๆ และโรยชีสก่อนนำไปอบหอม ๆ ฟินไม่แพ้ไม่เมนูอื่นแน่นอน

3. พาสต้า คาโบนาร่า (Pasta Carbonara)

พาสต้าหรือเมนูพวกเส้นอย่าง สปาเกตตี มักกะโรนี เฟตตูชินี่เป็นเมนูที่นิยมของคนทั่วโลกซึ่งที่อิตาลี เมนูพาสต้า คาโบนาร่าเป็นที่นิยมอย่างมาก

โดยสูตรต้นรับของอิตาเลียนนั้นจะไม่ใส่นมหรือครีมที่เป็นน้ำ ๆ เหมือนที่เราเห็นทั่วไป แต่จะใช้การผัดคลุกโดยอาศัยไข่ผสมกับพาเมซานชีสผสมกันเข้าไป

พร้อมทั้งผัดให้ทั่วเส้นพาสต้าให้ตัวของเส้นนั้นซึมซับไปกับตัวไข่และพาเมซานชีส และปิดท้ายด้วยการโรยพาเมซานชีสตกแต่งหน้าทำให้ตัวพาสต้า คาโบนาร่ามีความหอมและมันจากไข่และชีส รสชาติมีความนัวไม่เหมือนใคร หื้มมม น้ำลายไหล!!!

4. พิซซ่า (Pizza)

พิซซ่า แน่นอนว่าคงพลาด เมนูนี้ไปไม่ได้เด็ดขาด พิซซ่านั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติของอิตาลีก็ว่าได้

พิซซ่าถือได้ว่าเป็นอาหารชีวิตประจำวันของชาวอิตาเลียน ที่กินทุกวันซึ่งจะมีเอกลักษณ์เฉพาะต้นตำรับไม่เหมือนที่กินตามแบรนด์ต่าง ๆ โดยตัวพิซซ่านั้นจะทำเป็นแป้งโฮมเมด

เมื่อนำไปอบกับเตาถ่านก็จะมีความหอมถ่าน กรอบนอกนุ่มในตัวพิซซ่า นอกจากนี้ยังใช้วัตถุดิบตามพื้นเมืองในอิตาลี ตกแต่งไม่ว่าจะเป็น มะเขือเทศ ใบเบเซิลและมอสซาเรลลาชีสและอื่น ๆ ไม่เหมือนที่ไหนแน่นอน

5. ออสโซบูโก (Ossobuco)

อาหารอิตาเลียน ที่มีต้นกำเนิดจากเมืองมิลาน โดยคำว่าออสโซบูโกในภาษาอิตาลี มีความหมายว่า กระดูกที่มีช่อง หมายถึงลักษณะของเนื้อวัวที่ตัดมาทำอาหาร

ซึ่งมีลักษณะการปรุงจากเนื้อวัวส่วนน่องหรือเนื้อน่องลายมาตัดและนำมาคลุกแป้งแล้วทอดต่อมาแล้วนำไปอบทำน้ำซุปพร้อมใส่เครื่องสมุนไพรต่าง ๆ

ของอิตาเลียนไม่ว่าจะเป็นโรสแมรี่ มะเขือเทศ แคร์รอต หัวหอมและไวน์แดง ทำให้มีกลุ่มหอม เนื้อนุ่มละมุนและรสชาติกลมกล่อมอร่อยสไตล์อิตาเลียน เมนูนี้จึงเป็นเมนูที่มีชื่อเสียงและอร่อยจากมิลาน

ติดตามข้อมูลเที่ยว https://ultimatejourney.co.th/

6. ฟอคคาเซีย (Focaccia)

เป็นเมนูอีกเมนูหนึ่งที่มีชื่อเสียงในอิตาลี มีลักษณะเป็นขนมปังอิตาเลียน ที่อบด้วยเตาเผาแบบแบนซึ่งมีรูปแบบและลักษณะเหมือนกับพิซซ่าที่มีความหอม

กรอบนุ่มภายในตัวขนมปังเหมือนพิซว่าจริง ๆ จนบางที่เรียกเมนูนี้ว่า Pizza bianca ปกติเมนู   ฟอคคาเซียสามารถเสิร์ฟเป็นกับข้าวหรือขนมปังแซนด์วิชก็ได้

เนื่องด้วยรสชาติที่มีความเค็มนิด ๆ จากเกลือและหอมสมุนไพรทำให้จับคู่ซอส ซุป แซนด์วิชต่าง ๆ หรือกินเป็นขนมปังเปล่า ๆ ก็ได้

7. โพรชูโต (Prosciutto)

โพรชูโต เป็นอีกเมนูที่นิยมใช้เป็นส่วนประกอบของเมนูชื่อดังต่าง ๆ โพรชูโตหรือพาร์มาแฮม มีต้นกำเนิดมาจากเมืองพาร์มาทางตอนเหนือของอิตาลีซึ่งมีลักษณะหนาวเย็น

จนทำให้ชาวบ้านแถวนั้นต้องกักตุนเสบียงไว้กินช่วยหน้าหนาวที่ไม่สามารถปลูกพืชผักอะไรได้ จนเกิดเป็นพาร์มาแฮม โดยทำมาจากขาหลังของหมูซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการหมักด้วยเกลือ

จากนั้นค่อยล้างออกเพื่อลดความเค็มของเนื้อหมูและแขวนเพื่อบ่มตัวเนื้อหมูจะทำให้เนื้อหมูมีรสชาติความเค็มที่พอดี และกลิ่นหอมมีรสชาติเฉพาะ คำว่า “โพรชูตโต้” แปลว่าแฮมในภาษาอิตาลี

คนอิตาลีมักจะนิยมนำมารับประทานคู่กับเมล่อนสด แฮมที่นิยมนำมารับประทานคู่กันกับเมล่อนคือพาร์มาแฮม อาจจะฟังดูไม่เข้ากันเพราะแฮมนั้นมีรสเค็มในขณะที่เมล่อนนั้นมีรสหวาน

อย่างไรก็ตาม มันกลับเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ สามารถหารับประทานได้ทั่วไปตามร้านอาหารหรือจะไปซื้อจากซุปเปอร์มาเก็ตมารับประทานเองก็ได้

8. ริซอตโต (Risotto)

ถ้าหากรับประทานอาหารจำพวกแป้งอย่างพิซซ่าหรือพาสต้าจนเบื่อแล้ว มาลองริซอตโต้กันบ้าง ริซอตโต้เป็นอาหารจานข้าวสไตล์อิตาเลียน ที่ถูกนำไปปรุงกับวัตถุดิบต่างๆอย่างเช่นมะเขือเทศหรือเห็ดทรัฟเฟิลเป้นต้น

ริซอตโต (Risotto) เป็นอาหารอิตาลีประเภทหนึ่งซึ่งมีลักษณะของข้าวผัดที่เต็มไปด้วยครีมจากการดูดซับน้ำซุปจากเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปลา เนื้อวัวหรือผักต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งไวน์

ขณะผัด โดยมีส่วนประกอบอย่าง พาเมซานชีส เนย หัวหอม ทำให้รสชาติมีความนัว หอม เข้มข้นจากเนื้อสัตว์และไวน์ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ มีลักษณะคล้าย ๆ ข้าวผัดที่เอาไปต้ม วิธีการทำสะดวกไม่ยุ่งยากจึงเป็นที่นิยมของชาวอิตาเลียน

9. ทีรามิสุ (Tiramisu)

มาถึงขนมหวานกันบ้าง ทีรามิสุ ขนมหวานรสกาแฟชื่อดังของอิตาลี มีลักษณะพิเศษที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการอบเหมือนขนมอื่น ๆ มีลักษณะเรียงสลับเป็นชั้น ๆ

ซึ่งส่วนประกอบของทีรามิสุ มีทั้งขนมปังกรอบซาวอยหรือเลดี้ฟิงเกอร์ที่จุ่มกาแฟเอสเปรสโซแล้วนำไปเรียงชั้นกับส่วนผสมของไข่ น้ำตาลและเนยมัสคาร์โปเน

หลังจากนั้นนำทีรามิสุเข้าแช่เย็นทำให้ขนมเกิดการเซ็ตตัวสักพักและโรยผงโกโก้ข้างบนให้สวยงาม เท่านี้ก็จะได้ขนมทีรามิสุแล้ว มีกระบวนขั้นตอนที่ไม่ยากเกินไปและสามารถหาวัตถุดิบได้ง่าย

จึงเป็นขนมที่ชาวอิตาเลียนนิยมทาน ใครมาเที่ยวอิตาลี ก็อย่าลืมแวะหาร้านทานขนม   ทีรามิสุกันนะคะ

10. เจลาโต้ (Gelato)

เจลาโต้ หรือไอศกรีมอิตาเลียน มีลักษณะเป็นไอศกรีมทั่ว ๆ ไป แต่มีขั้นตอนการทำตามสูตรฉบับของอิตาเลียนแท้ ๆ ที่ไม่เหมือนใคร

โดยส่วนผสมหลักของเจลาโต้จะมี นม ครีม น้ำตาล และอาจมีการตกแต่งตามกลิ่นรสผลไม้เพื่อให้ดูน่ารับประทาน

การทำเจลาโต้จะมีการควบคุมสัดส่วนของวัตถุดิบให้มีความสมดุลกันไม่ว่าจะเป็นปริมาณน้ำตาลกับน้ำเพื่อไม่ให้ไอศกรีมแข็งตัวและมีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่มและรสชาติเข้มข้นกว่าไอศกรีมของที่อื่น

ทำให้ความนิยมแพร่กระจายไปทั่วอิตาลีก่อนขยายออกไปประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก พูดแล้วขอตัวไปซื้อไอศกรีมก่อนนะคะ

11. Panzanella Salad

รู้จักเมนูแป้ง ขนมหวานหวานไปแล้ว เรามาพูดถึงอาหารเพื่อสุขภาพกันบ้างดีกว่า นั่นก็คือ panzanella salad เป็นเมนูสลัดเก่าแก่ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี

เป็นที่นิยมในภาคตอนกลาง โดยใช้ส่วนประกอบหลัก ได้แก่ ขนมปังเก่าที่จะมีลักษณะแห้ง กรอบ และกระเทียม หัวหอมและน้ำมันมะกอก โดยนำขนมปังเก่ามาหั่นเต๋าเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วแช่น้ำที่ผสมน้ำส้มสายชูจากไวน์องุ่นเพื่อให้ขนมปังมีความชุ่มฉ่ำน้ำ

หลังจากนั้นนำมาขนมปังที่แช่น้ำมาผสมกับผักต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศ แตงกวา หอมใหญ่ น้ำสลัดใสและโรยด้วยใบโหระพา ก็จะได้สลัด panzanella salad สไตล์อิตาเลียนแท้ ๆ แล้ว

ก็จบไปแล้วสำหรับ 11 อาหารอิตาเลียน เมนูสูตรดั้งเดิม ที่มีมากกว่าแค่ พิซซ่า ที่แนะนำจาก Ultimate Journey แต่ละเมนูก็มีขั้นตอนและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไปซึ่งบางเมนูอาจไม่เป็นที่นิยม

หาทานได้ยากในไทย ส่วนบางเมนูเราอาจคุ้นเคยหรือรู้จักกันแพร่หลายแล้ว สุดท้ายนี้ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีโอกาสได้ไปเที่ยวประเทศอิตาลี ไปเจอเมนูอิตาเลียนหายาก หรือมีร้านประจำที่อร่อย ก็อย่าลืมแชร์หรือแนะนำบอกพิกัดให้เพื่อน ๆ ได้ไปลิ้มลองกันนะ

https://ultimatejourney.co.th/รับจัดกรุ๊ปทัวร์ท่องเที่ยวทั่วโลก กรุ๊ปเหมาดูงาน-สัมมนา-คุณภาพดีเยี่ยม เที่ยวครบ จบทุกเส้นทาง

☎️ โทร : 02-334-0081
📱 สายด่วน : 098 961 9000
📥 inbox : m.me/Ultimate
📥 Line : @ultimate.bkk (มี@ ข้างหน้าด้วยนะคะ)

บทความอื่น ๆ

Christmas Market

ฉลองเทศกาล Christmas ที่ประเทศเยอรมนี บอกเลยสายฝอ ห้ามพลาด!!

อีกไม่กี่วันเราก็จะเดินทางเข้าสู่เดือนธันวาคมแล้ว ซึ่งเป็นเดือนแห่งความสุข ความอบอุ่น และก็มีวันที่ทุกคนรอคอยกันมากที่สุด คือวันคริสต์มาสนั่นเอง หากเพื่อนๆ ต้องการชวนใครไปฉลองวัน Christmas หลายๆท่านคงนึกถึง ทัวร์ยุโรป แน่ๆ แต่หากเพื่อนๆ ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน? ถ้าเป็นอย่างนั้น เพื่อนๆ มาถูกที่แล้วค่ะ เพราะวันนี้ Ultimate Journey จะพาเพื่อนๆ ไปร่วมฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่ ประเทศเยอรมนี กันค่ะ  Credit : https://www.flickr.com/ แบบว่าเอาใจสาว ๆ สายฝ. โดยเฉพาะคนที่เล็งหนุ่มเยอรมันไว้ เผื่อปลายปีนี้หนุ่ม ๆ จะชวนบินไปฉลองคริสต์มาสบ้านเขา เราจะได้เป๊ะ หรือใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวเยอรมนีช่วงคริสต์มาสนี้ก็ห้ามพลาด รับรองว่าเพื่อนๆ จะได้เพลินเพลินไปกับบรรยากาศคริสต์มาสที่แสนอบอุ่น มาดูกันว่าประเพณีการฉลองคริสต์มาสแบบฉบับชาวเยอรมันนั้นทำอย่างไรบ้าง? ถ้าพร้อมแล้วเตรียมตัวออกเดินทางได้!! ในวันที่ 6 ธันวาคม บ้านเมืองจะเต็มไปด้วยถุงเท้าสำหรับใส่ของขวัญ เด็ก ๆในประเทศเยอรมนีจะได้รับถุงเท้าในวันนักบุญนิโคลัส วันที่ 6 ธันวาคม (เปิดเช้าวันรุ่งขึ้นในวันที่ 7 ธันวาคม) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ

Top 10 Watch

TOP 10 นาฬิกาแบรนด์หรูที่แพงที่สุด

นาฬิกานั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องประดับ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของศักดิ์ศรีและสถานะอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะมีนาฬิกาแบรนด์ต่าง ๆ มากมายนับไม่ถ้วน แต่มีเพียงไม่กี่แบรนด์เพียงเท่านั้นที่ขึ้นชื่อเรื่องของงานฝีมืออันประณีตและราคาที่สูงลิ่ว โดยวันนี้พี่อัลติเมทเจอร์นี่จะพามาสำรวจแบรนด์นาฬิกาหรูประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และ เยอรมัน ที่แพงที่สุด 10 อันดับแรก ที่บ่งบอกถึงความมั่งคั่งและความหรูหรา ตั้งแต่ความคลาสสิกเหนือกาลเวลาไปจนถึงนวัตกรรมสมัยใหม่เลยทีเดียว แบรนด์เหล่านี้ได้ก้าวข้ามขอบเขตที่มีไว้เพียงแค่เครื่องมือบอกเวลาและได้สร้างมาตรฐานใหม่ในนาฬิกาสุดหรูนี้ แล้วจะรอกันอยู่ทำไม มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีแบรนด์อะไรบ้างงง 1.A.Lange & Söhne Credit : https://www.alange-soehne.com/ A.Lange & Söhne แบรนด์นาฬิกาประเทศเยอรมัน ตัวแบรนด์นี้มีชื่อเสียงในเรื่องของความแม่นยำและการดีไซน์ที่ซับซ้อน นักสะสมต่างก็พากันมองหาพวกรุ่นลิมิเต็ดกันทั้งนั้น ซึ่งอาจจะมีราคามากถึงหลักล้านยูโร ตัวบริษัทนั้นโด่งดังขึ้นมาจากตัวนาฬิกา อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งมีรูปแบบของหน้าปัดที่ไม่เหมือนใครและการแสดงวันที่ขนาดใหญ่ กลไกอันซับซ้อนของ

Marry Christmas.

ทำไมเราถึงเรียกมันว่าคริสต์มาส?

เทศกาลแห่งความรักความอบอุ่น คริสต์มาสต์ (Christmas) เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองอันศักดิ์สิทธิ์ในวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี เป็นเวลากว่าสองพันปีที่ผู้คนทั่วโลกเฝ้าสังเกตประเพณีและการปฏิบัติที่มีทั้งทางศาสนาและทางโลก ชาวคริสต์เฉลิมฉลองวันคริสต์มาสเป็นวันครบรอบการประสูติของพระเยซูชาวนาซาเร็ธ ในการเฉลิมฉลองคริสต์มาสทางโลกนี้ บุคคลในตำนานชื่อซานตาคลอสมีบทบาทสำคัญ และมีที่ไหนจัดเทศกาลคริสต์มาสได้ดีไปกว่าประเทศในโซนยุโรป เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่คนไปเที่ยว ทัวร์ยุโรป กันมากที่สุด เราไปอ่านประวัติวันคริสต์มาสต์กันต่อ ทำไมเราถึงเรียกมันว่าคริสต์มาส? คำว่า Christmas  เป็นการผสมผสานระหว่าง คำว่า Christes และ Maesse ที่แปลว่า “พิธีมิสซาของพระคริสต์” พบครั้งแรก ในเอกสารโบราณ เป็นภาษาอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1038 และคำนี้ก็แปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas คำทักทายที่เราได้ฟังบ่อย ๆ ในเทศกาลนี้คือ Merry Christmas คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า สันติสุข และความสงบทางใจ คริสต์มาส มาร์เก็ต ที่ห้ามพลาดในยุโรป ทัวร์ยุโรปตะวันออก https://ultimatejourney.co.th/tour_category/toureurope/page/6/ คริสต์มา